6 วิธี เลือกคาร์ซีทแรกเกิดให้ลูกในฉบับของ แม่ PRAEW

วันนี้ BabyGift จะมาแชร์วิธีการเลือกคาร์ซีทแรกเกิดในฉบับของคุณแพรว เพชรแพรว อัครเตชวาทิน หรือ แม่ PRAEW จากเพจ PRAEW ให้ดูกันค่ะ เพื่อเป็นแนวทางให้แม่ๆทุกคน ที่กำลังมองหาคาร์ซีทแรกเกิดดีๆสักตัวให้เจ้าตัวน้อยอยู่ แต่ไม่รู้จะเลือกอย่างไรดี ต้องให้ความสำคัญตรงไหนเป็นพิเศษ วันนี้เราสรุปมาให้แล้วค่ะ

6 เทคนิคเลือกซื้อคาร์ซีทแรกเกิดในแบบของ แม่ PRAEW

1. วัสดุต้องดี แข็งแรง แม่ PRAEW ให้ความปลอดภัยมาเป็นอันดับ 1

โครงสร้างต้องมีมาตรฐาน วัสดุต้องดี แข็งแรงทนทาน ไม่ก๊อกแก๊ก และต้องเข้าใจด้วยค่ะว่าในแต่ละส่วนของร่างกายเด็ก หรือแรงที่เด็กจะได้รับจากการเกิดอุบัติเหตุใช้วัสดุป้องกันที่แตกต่างกันในการปกป้องตัวเด็ก เช่น แรงกระแทกแรงๆ EPS Foam จะป้องกันได้ดีกว่า ส่วนแรงกระแทกเบาๆ แผ่นโพลี่ยูรีเทน จะช่วยป้องกันได้ดีกว่า

คาร์ซีทที่เมอใช้อยู่ มีวัสดุที่หลากหลายมาก มีทั้ง EPS Foam ที่เป็นวัสดุโครงสร้างหลัก และแผ่นโพลี่ยูรีเทนที่เสริมเข้ามาบริเวณที่นั่ง ศีรษะและสะโพกทั้ง 2 ด้าน เรียกได้ว่าทุกส่วนออกแบบมาให้รองรับทุกส่วนอย่างดีที่สุดค่ะ 

อีกสิ่งที่แพรวรู้มา คือเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ เด็กที่อยู่บนคาร์ซีทจะได้รับอันตรายจากแรงกระแทกซ้ำๆ ซึ่งอันตรายมากๆ เพราะเด็กมีร่างกายที่บอบบาง แพรวให้ความปลอดภัยมาเป็นอันดับ 1 แพรวเลยต้องหาคาร์ซีทที่มีความปลอดภัยสูง หรือมีเทคโนโลยีที่มาช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเมอ อย่างคาร์ซีทตัวนี้ที่แพรวใช้อยู่ แพรวก็รู้มาว่าคาร์ซีทตัวนี้มีเทคโนโลยีพนักพิงยุบตัวอัตโนมัติ ที่ช่วยลดแรงกระแทกและไม่ทำให้เกิดการกระแทกซ้ำๆ แพรวกลัวทุกคนไม่เข้าใจกัน แพรวเลยไปหาวีดีโอมาให้ดูกันค่ะ

2. คาร์ซีทต้องมีมาตรฐานรองรับ

ไม่ใช่ทุกชิ้นที่จะให้ความปลอดภัยได้เต็มประสิทธิภาพนะคะ ไหนๆจะ Save ลูกแล้ว ต้องมีความปลอดภัยที่การันตีได้ ซึ่งปกติมาตรฐานของคาร์ซีทก็จะมีอยู่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับสถาบันหรือประเทศที่รับรอง เช่น คาร์ซีทที่ผ่านมาตรฐานของยุโรป จะมีสัญลักษณ์มาตรฐาน ECE R44/04 หรือ i-Size (UN R129) ส่วนของสหรัฐอเมริกาจะใช้ว่ามาตรฐาน FMVSS 213 รุ่นนี้ที่แพรวใช้ก็มีการทดสอบจากโรงงานจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยระดับยุโรปอย่าง ECE R44-04 การันตีเรื่องความปลอดภัยค่ะ

ข้อ 3 ต้องสำหรับแรกเกิดโดยเฉพาะ

บอกเลยค่ะ ลูกเล็กอย่าซื้อเผื่อเด็ดขาด เพราะร่างกายเด็กบอบบางมาก บางคนซื้อตัวใหญ่ไปเลย เบาะกว้างเกินไป แล้ววางลูกแรกเกิดเข้าไป ไม่ได้เซฟ แถมยังอันตรายมาก หรือถ้าเลือกให้ดีก็ควรที่จะมีเบาะ Support ที่ออกแบบหรือรองรับเด็กแรกเกิดมาให้เลย

รุ่นนี้ที่แพรวใช้สำหรับเด็กแรกเกิดเลยค่ะ ใช้ได้ยาวไปถึง 4 ปี เบาะเค้ามี Support เด็กแรกเกิดโดยเฉพาะเลย

ข้อ 4  ลูกต้องนั่งสบายค่ะ 

ข้อนี้สำคัญมาก นั่งไปร้องไป อึดอัดไป สุดท้ายจะไม่ได้นั่ง ต้องเลือกที่สบายกับตัวเด็กนะคะ  ซึ่งโดยส่วนใหญ่เด็กแรกเกิดที่เค้านั่งไม่สบาย เพราะเค้าจะร้อน เหงื่อออกง่าย หลังจะเปียก หลังคอจะเปียก ทำให้บางครั้งอาจเกิดผื่นแพ้เหงื่อได้ หรือร้องไห้ไม่ยอมนั่งคาร์ซีทเลยค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าอยากให้ลูกนั่งสบาย ก็ต้องมีการระบายอากาศที่ดีค่ะ

คาร์ซีทรุ่นที่เมอนั่งอยู่ แพรวก็เลือกให้มีการระบายอากาศที่ดีค่ะ แพรวเลือกที่มีเนื้อผ้าโครงตาข่าย ที่ช่วยลดผิวสัมผัสระหว่างตัวเด็กและตัวผ้า มีโครงระบายอากาศด้านหลังช่วยให้นั่งแล้วไม่ร้อนค่ะ ซึ่งตัวนี้ก็มีโครงสร้างระบายอากาศมากถึง 1,695 รูระบายอากาศดีมาก ไม่อับชื้น ที่สำคัญยังปรับนั่ง ปรับนอนได้หลายระดับ ทำให้เมอนั่งสบาย ไม่ร้องเลย

ข้อ 5 ต้องหมุนได้ 360 องศา

อันนี้เลือกจากการใช้งานของแพรวเลยนะคะ เพราะการหมุนได้เนี่ยจะช่วยทำให้แพรวดูแลเมอได้ง่ายขึ้น ช่วยเวลาเราประคองลูกเข้าออกคาร์ซีทให้ง่ายขึ้น แม่เจ็บแผลผ่าคลอด หรือของพรุงพรัง อุ้มลูกยังไม่ถนัด ไม่ต้องเอี๊ยวตัววาง แค่หมุนแล้วหันคาร์ซีทมาด้านประตู แล้ววาง อยากบอกว่าสะดวกมาก หรือตอนลูกร้อง จอดรถให้นม ก็แค่หันหน้ามาหาแม่ หมุนได้รอบทิศสะดวกมากจริงๆค่ะ 

อันนี้แพรวแนะนำนิดนึง อยากให้ลองหมุนดูก่อนซื้อด้วย พยายามหาที่หมุนได้ด้วยมือเดียว หมุนได้ง่าย แม่ๆไม่ต้องใช้แรงมากในการหมุน เพราะมือนึงจะได้ไว้อุ้มลูก อีกมือจะได้หมุนใช้งาน

ข้อ 6 ต้องติดตั้งง่าย มั่นคง และย้ายสะดวก

หลายๆบ้านไม่ได้มีรถแค่คันเดียว เพราะฉะนั้นการย้ายคาร์ซีท ไม่ควรจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ต้องติดตั้งได้ง่าย และมั่นคง ซึ่งคาร์ซีทรุ่นที่ใช้อยู่ติดตั้งด้วย Isofix การติดตั้งที่ใช้แกนเหล็กยึดระหว่างคาร์ซีทกับตัวรถ และพิเศษตรงที่คาร์ซีทรุ่นที่ใช้อยู่เป็นการควบคุมการติดตั้งจากด้านหน้า ทำให้ติดตั้งง่าย สะดวกมากกก! และคาร์ซีทยังมีขาค้ำยันขนาดใหญ่มาให้ด้วย เลยติดตั้งได้แน่นสนิท มั่นคงกับตัวรถมากขึ้น

แพรวขอแนะนำนิดนึงนะค่ะ สำหรับแม่ๆคนไหน ที่ไม่รู้ว่ารถตัวเองสามารถติดตั้ง Isofix ได้รึเปล่า ให้สังเกตุบริเวณเบาะ จะมีสัญลักษณ์ Isofix อยู่ หรือถ้าไม่มีให้ลองเอามือล้วงเข้าไปที่บริเวณรอยที่พนักพิงกับเบาะว่ามีแกนเหล็กที่ใช้ยึด Isofix อยู่หรือไม่