“นั่งคาร์ซีทแบบใหม่ ลูกปลอดภัยกว่าเดิม ให้เด็กหันหน้าไปด้านหลัง ลดแรงกระแทกจากอุบัติเหตุ” พ่อแม่ในอังกฤษต่างพากันตื่นตัว เมื่อทีมแพทย์แนะนำให้ลูกนั่งเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก หรือคาร์ซีท จากการศึกษาลักษณะการติดตั้งของคาร์ซีทที่ประสบอุบัติเหตุบ่อยครั้งนั้น ทีมแพทย์เผยว่า การที่ให้เด็กนั่งคาร์ซีทแบบนั่งหันหน้าไปด้านหลังรถ มีความปลอดภัยมากกว่า ให้เด็กนั่งคาร์ซีทแบบที่นั่งหันไปทางหน้ารถ ซึ่งวิธีนี้จะเหมาะสมกับเด็กแรกเกิดถึง 4 ปีเท่านั้น
ไม่นานมานี้ดิฉันเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดกับลูกๆทั้งสนุกสนานและปลอดภัยตั้งแต่ออกเดินทางจนถึงจุดมุ่งหมายเลยค่ะรู้สึกขอบใจตัวเองที่กัดฟันให้ลูกนั่งคาร์ซีท ตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก ทำให้ขับรถได้อย่างมีสมาธิ แต่กว่าจะถึงวันนี้ลูกก็เคยร้องไห้ประท้วงจนแหวะใส่เก้าอี้ตัวเองมาแล้ว ดิฉันใช้วิธีสงบสยบความเคลื่อนไหวร้องได้ร้องไป แค่ 15 นาทีเท่านั้น คลื่นลมก็สงบ ตั้งแต่นั้นมาลูกๆเรียนรู้เลยว่า เวลาขึ้นรถต้องไปนั่งที่ “เก้าอี้วิเศษ” ของตัวเองและนั่งทุกครั้งแม้ระยะทางจะใกล้หรือไกลเพราะอุบัติเหตุอาจเกิดจากภัยในรถ เช่น ลูกทะเลาะกันที่เบาะหลัง (เจอมาแล้ว) หรือปีนป่ายจนได้รับอันตราย คุณแม่ท่านไหนที่ยังไม่มั่นใจในคาร์ซีท carseat ว่าจะช่วยวันยุ่งๆของคุณแม่ได้มากน้อยแค่ไหน ลองเคล็ดลับต่อไปนี้ดูสิคะ แล้วลูกคุณจะรัก “เก้าอี้วิเศษ” ของตัวเองขึ้นเยอะเลย สร้างความผูกพันกับเก้าอี้ อนุญาตให้ลูกเอาสติ๊กเกอร์มาตกแต่งเก้าอี้ เอาให้ถูกใจเลยเพราะต้องนั่งไปอีกนาน มอบรางวัล บอกลูกว่า เราจะออกเดินทางได้ก็ต่อเมื่อล็อกสายรัดนิรภัยเรียบร้อย แล้วลูกจะรีบทำตัวน่ารักเพราะอยากไปเที่ยว แต่ถ้ากำลังพาไปหาหมอ อาจให้ขนมเป็นรางวัลได้ เบี่ยงเบนความสนใจ ถ้าโยเยนัก ชวนคุยเรื่องการ์ตูนที่ลูกกำลังอินดีกว่า แค่นี้ก็เผลอจดจ่อกับการโม้เรื่องเจ้าหญิงกับฮีโร่ จนไม่ทันสังเกตว่า ตัวเองถูกจับนั่งเก้าอี้เรียบร้อยแล้ว (มุกนี้ไม่เหนื่อย แถมสนุกดีด้วย) เตรียมของเล่นแก้เบื่อ ควรมีของเล่นชิ้นโปรดอยู่ในรถ แนะนำว่าควรเป็นของเบาๆ และไม่แข็ง เช่น หนังสือผ้า เพราะคุณอาจโดนลูกเอาของในมือปาใส่ขณะขับรถ หรือเลือกเปิดเพลงที่ลูกชอบแล้วร้องไปด้วยกันก็ได้ หยุดพักบ้าง หากต้องเดินทางไกลควรเลือกใช้เก้าอี้ปรับนอนเอนได้ และจอดพักสักครู่เพื่อให้ลูกได้ยืดเส้นยืดสาย เคล็ดลับก่อนตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีท อายุ ประเภทของคาร์ซีท […]
ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย สำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข กรมทางหลวง กองบังคับการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ) คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี สสส และ คุณแทนคุณ จิตต์อิสระ จากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าในแต่ละปีจะมีเด็กอายุน้อยกว่า 15 ปี ประสบอุบัติเหตุจากการโดยสารรถยนต์ รถปิกอัพ หรือรถตู้ กว่า 5500 รายต่อปีหรือ 15 คนต่อวัน เป็นการบาดเจ็บรุนแรงที่ต้องการการนอนพักรักษาตัวหรือสังเกตุอาการในโรงพยาบาลประมาณ 1400 คนต่อปี และเสียชีวิต รวมประมาณ 70คนต่อปี ในจำนวนนี้เป็นรถปิกอัพกว่า 1190 ราย และรถยนต์ทั่วไปอีก 170 ราย ในช่วง 10 วันของเทศกาลสงกรานต์ จะมีเด็กบาดเจ็บจากอุบติเหตุทางถนนประมาณ 1100 ราย เป็นการบาดเจ็บรุนแรงที่เกิดจากการโดยสารรถยนต์ รถตู้ รถปิกอัพ ประมาณ 132 ราย ในจำนวนนี้มีการเสียชีวิตจำนวน 6 ราย เมื่อรถยนต์ มีการเบรกอย่างกะทันหัน หักเลี้ยวอย่างฉับพลัน หรือชนอย่างรุนแรง สิ่งที่เกิดขึ้นในทันทีก็คือ…ร่างของเด็กๆจะหลุดลอยจากที่นั่ง ไปอัดกับแผงคอนโซลหน้ารถ ปะทะกับกระจกหน้ารถ แล้วทะลุลอยละลิ่วออกนอกรถ หรือประตูรถเปิดออก แล้วเด็กกระเด็นออกไปนอกรถ ด้วยรูปร่างเล็กบอบบางของเด็กๆ จึงทำให้…กระโหลกศีรษะ กระดูกซี่โครง แขนขา แตกหัก ปอด หัวใจ รวมทั้งอวัยวะภายในช่องท้องต้องชอกช้ำ หรือ ฉีกขาดโดยเฉพาะศีรษะของเด็กๆ ที่กระแทกอย่างรุนแรง ทำให้มีเลือดออกในสมอง เป็นเหตุแห่งความพิการ หรือ เสียชีวิต… […]
ความสำคัญกับการมีคาร์ซีทของเจ้าตัวเล็ก ที่ติดตั้งอยู่ภายในรถเพื่อความปลอดภัยนั้น สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง คือการติดตั้งอย่างไรให้ถูกวิธี เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าการใช้คาร์ซีท หรือที่นั่งสำหรับเด็กบนรถยนต์นั้น มีความปลอดภัยมากกว่าการอุ้มเด็กไว้บนตัก เราจึงควรให้ความใส่ใจในเรื่องนี้ให้มากด้วยค่ะ ทางเราจึงขอแนะนำสิ่งดีๆ เกี่ยวกับการติดตั้งคาร์ซีทอย่างถูกวิธีมาฝากกันค่ะ 1. ติดตั้งคาร์ซีทโดยหันหน้าไปทางด้านหลัง โดยทั่วไป เราย่อมคิดว่าเด็กควรหันหน้าไปทางหน้ารถ แต่ตามคำแนะนำของสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา แนะนำว่า “ทารก” ควรนั่งแบบ Rear Facing หรือติดตั้งคาร์ซีทโดยหันหน้าไปทางด้านหลัง จนอายุ 2 ขวบ หรือความสูงและน้ำหนักถึงเกณฑ์ ส่วนหนึ่งเพราะคอของทารกยังไม่แข็งแรง หากคุณพ่อคุณแม่เบรกอย่างรุนแรงอาจเป็นอันตรายได้ค่ะ แต่วิธีนี้อาจทำให้เจ้าตัวเล็กร้องโวยวายได้เป็นเดือนๆ เลย เพราะเขาจะมองไม่เห็นหน้าคุณพ่อคุณแม่ของเขานั่นเอง ดังนั้น ควรทำใจเย็นๆ และหาของเล่นมีเสียงกรุ๋งกริ๋งติดรถไว้บ้าง เผื่อไว้หลอกล่อลูกกันการแผดเสียงค่ะ 2. ไม่ควรติดตั้งคาร์ซีทที่เบาะด้านหน้า หากเกิดอุบัติเหตุ การทำงานของถุงลมนิรภัยจะทำให้ลูกน้อยเป็นอันตรายได้นั่นเอง […]